Asd

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ตอนที่ 27 วาระสุดท้ายของอินทรชิต

ภายหลังที่สารัณทูต กองคอยเหตุฝ่ายกรุงลงกาได้มารายงานให้ทราบว่าพระลักษณ์และทหารลิงได้ฟื้นคน ชีพจากศรพรหมมาสตร์ของอินทรชิต และยกทัพกลับไปแล้ว (ห้องที่ 78) อินทรชิตจึงคิดอุบายเอาสุขาจารซึ่งต้องโทษหนีทัพสมัยศึกกุมภกรรณและต้องโทษ ถูกจำคุกตลอดชีวิตมาแปลงเป็นนางสีดา และให้นั่งท้ายรถไปสู่สนามรบ แล้วตัดศีรษะนางสีดาปลอมให้แก่ฝ่ายพระราม จากนั้น หลอกว่าจะยกทัพไปรบเมืองอยุธยา แต่ความจริงย้อนกลับมาทำพิธีกุมภนิยาที่เขาจักรวาล และถ้าพระราม พระลักษณ์ไม่เลิกทัพกลับไปก็จะกลับมาสู้รบกันใหม่ และเป็นไปตามแผนที่วางไว้เมื่อพระลักษณ์เห็นนางสีดาแปลงถูกตัดศีรษะก็ ร้องไห้สงสารนาง สีดาแล้วสั่งให้เลิกทัพกลับมายังพลับพลามารายงานให้พระรามทราบ พระรามจึงถามพิเภกว่าที่พระลักษณ์กล่าวว่านางสีดาสิ้นชีวิตแล้วมีความจริง ประการใด

พิเภกจับยามดูแล้วทูลว่า เหล่านี้เป็นแผนของอินทรชิต ผู้ที่สิ้นชีวิตคือชายนักโทษแปลงมา องค์นางสีดายังอยู่ดี พระรามดีใจที่นางสีดายังอยู่ดี จึงให้หนุมานและองคตไปดูศพที่สมรภูมิก็ปรากฎว่าเป็นจริงตามที่พิเภกทำนาย

(ห้อง ที่ 79) วันรุ่งขึ้นพระรามถามพิเภกว่าที่อินทรชิตจะยกทัพไปกรุงอโยธยาจริงหรือไม่ พิเภกบอกว่าไม่ใช่แต่อินทรชิตไปทำพิธีกุมภนิยาของท้าวธาดาพรหมในดงไม้ไผ่ที่ เนินเขาจักรวาลและหากครบเจ็ดวันตามตำราฆ่าอย่างไรก็จะไม่ตาย เห็นควรให้พระลักษณ์ยกทัพไปทำลายพิธีกุมภนิยาของอินทรชิต และมอบศรสามเล่มให้ไปด้วยคือ
ศรอัคนิวาต ศรพลายวาต และศรพรหมมาสตร์ รวมทั้งวันนี้เป็นวันที่อินทรชิตชะตาขาดด้วย

ฝ่าย อินทรชิตซึ่งกำลังทำพิธีกุมภนิยาอยู่ที่เนินเขาจักรวาลนั้นก็กำลังนั่งอยู่ เหนือบัลลังก์อาสน์ สั่งให้ทหารโหมกองไฟ 108 กองให้ครบเจ็ดวันเจ็ดคืน แล้วอินทรชิตก็จุดเทียน ธูป บูชาพระเวทและจับศรสามเล่ม คือ วิษณุปาณัม นาคบาศ และพรหมมาสตร์ ขึ้นพาดตัก หลังจากนั้นก็หลับตาสำรวมใจร่ายพระเวทไป

เมื่อ พระลักษณ์ยกทัพมาถึงเขาจักรวาลเห็นอินทรชิตกำลังนั่งทำพิธีจึงจับศรพรหมมา สตร์แผลงไปทำลายพิธี แล้วเหล่าทหารลิงก็เข้ารบสู้โรมรันกับทหารยักษ์ ทั้งสองต่างแรกศรกันและกันอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดอินทรชิตรู้ว่าขืนสู้รบต่อไปตนต้องตายแน่จึงคิดหนีกลับกรุงลงกา เพื่อลาพ่อแม่และนางสุวรรณกันยุมาผู้เป็นเมีย แล้วจึงยกทัพกลับมาสู้รบอีกต่อไปเป็นครั้งสุดท้าย แล้วอินทรชิตก็ขว้างจักรเมฆสูรขว้างไปปิดแสงอาทิตย์ ทำให้ท้องฟ้ามืดมิดไปทั่วแล้วเหาะหนีกลับกรุงลงกา

(ห้องที่ 80) อินทรชิตกลับมาเล่าให้นางมณโฑผู้เป็นมารดาทราบเรื่อง นางมณโฑเห็นลูกกายบอบช้ำ เลือดไหลโทรมกายก็เศร้าโศกเสียใจ นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อครั้งที่นางรับใช้พระอุมาเทวี มเหสีพระอิศวรนั้นให้นางได้รับพรน้ำนมในถันเป็นน้ำทิพย์ เมื่อดื่มจะชุบชีวิตได้ นางจึงให้อินทรชิตดูดดื่มนม


พลัน อินทรชิตก็ฟื้นกายหายเป็นปกติ นางมณโฑไปขอให้ทศกัณฐ์คืนนางสีดาเสีย ทศกัณฐ์ไม่ยอมคืนและยังโมโหนางอย่างมาก จากนั้นอินทรชิตก็ลาแม่ ลาพ่อ ลาเมียเพื่อออกรบครั้งสุดท้าย พระลักษณ์ยิงด้วยศรตัดคอขาด องคตนำพานแว่นฟ้าที่ขอมาจากพระพรหมรองศีรษะเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดไฟ บรรลัยกัลป์ จากนั้นพระรามก็แผลงศรเผาศีรษะนั้นเสีย

(ห้องที่ 81) ทศกัณฐ์ไปยังสนามรบอุ้มศพอินทรชิตวางเหนือบัลลังก์รถทรง แล้วเลิกทัพกลับคืนเข้าลงกา เมื่อมาถึงวังก็อุ้มขึ้นมหาปราสาท นางมณโฑและนางสุวรรณกันยุมาออกมารับศพก็ร้องไห้เศร้าโศก ทศกัณฐ์โกรธกริ้วคิดจะฆ่านางสีดาแต่เสนาผู้ใหญ่ห้ามไว้จนได้สติ

*-*ตอนต่อไป ทศกัณฐ์ออกรบกับพระรามเป็นครั้งแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น