Asd

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ตอนที่ 30 ทศกัณฐ์ถึงแก่ความตาย-นางสีดาลุยไฟ

พระลักษณ์กริ้วมาก หนุมานอ้างว่ามืดแล้วจึงเลิกทัพกลับ (ห้องที่ 106) หนุมานขอให้ทศกัณฐ์ออกรบด้วยและให้รอ ถ้าเห็นเหาะอยู่บนอากาศแต่เพียงผู้เดียวก็ขอให้เตรียมรับพระรามพระลักษณ์ได้ เลย (ห้องที่ 107) เมื่อหนุมานเหาะขึ้นท้องฟ้า องคตก็เอากล่องดวงใจที่ฝังไว้เหาะมาหาหนุมาน จากนั้นก็พากันเฝ้าพระรามและเอากล่องดวงใจถวาย จากนั้นเหาะกลับมาเอากล่องดวงใจเย้ย

(ห้องที่ 108) ทศกัณฐ์เห็นดังนั้นก็หน้าถอดสี รู้สึกผิดหวังเสียใจในตัวของ หนุมานเป็นอย่างมาก จนไม่มีจิตใจจะสู้รบต่อ จึงยกทัพกลับเมือง ทศกัณฐ์รู้ชะตาชีวิตของตัวเองดีว่าคงจะหมดอายุในเร็ววัน จึงสั่งเสียนางมณโฑและนางกาลอัคคีมเหสีรอง บอกว่าออกรบครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแต่จะขอตายอย่างชาติกษัตริย์ (ห้องที่ 109) ว่าแล้ว ทศกัณฐ์ก็แปลงร่างเป็นพระอินทร์งามสง่าจนพระรามตะลึงน้าวศรพรหมมาสตร์แต่ไม่ อาจยิงได้ หนุมานต้องเตือนให้ปล่อยศร พระรามจึงได้สติ รู้ว่าเป็นพระอินทร์จำแลงก็ปล่อยศรพรหมมาสตร์ต้องทศกัณฐ์ล้มลง แล้วสำนึกผิด ปากทั้งสิบของทศกัณฐ์พูดกับพิเภก ทั้งต่อว่า ทั้งฝากฝังให้ดูแลบ้านเมือง ดูแลนางมณโฑ นางกาลอัคคี ให้อยู่ในทศพิธราชธรรมและลาตาย (ห้องที่ 110) ขอให้ทำศพให้สมพระเกียรติ หนุมานขยี้ดวงใจของทศกัณฐ์จนแหลกลาญ แล้วทศกัณฐ์ก็สิ้นใจตาย


(ห้อง ที่ 111) หลังจากเสร็จจากศึกกรุงลงกา นางสีดาก็เตรียมเข้าเฝ้าพระราม แต่พระรามต้องการให้นางสีดาไม่เป็นที่ครหานินทาแก่ผู้คนทั่วไปได้เพราะอยู่ ในวังกับทศกัณฐ์มาหลายปี จึงเปรยว่า “นางก็อยู่ในวังนี้ท่าทางจะสุขสบาย ได้รับสมบัติมาก็มากมาย ลองนำมาให้เราชมบ้างสิ” นางสีดาได้ฟังดังนั้นก็แสนเจ็บปวดใจเหมือนมีสายฟ้ามากระหน่ำให้หัวใจแหลก สลาย เจ็บยิ่งกว่าตอนถูกทศกัณฐ์ลักพาไปเสียอีก จึงบอกพระรามว่านางจะลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ แล้วให้พระรามเชิญเทวดามาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย นางสีดาตั้งจิตอธิษฐาน กล่าวคำสาบานต่อหน้าเหล่าเทวดาทุกชั้นฟ้า หากแม้นตัวนางนอกใจสามีแม้แต่เพียงนึกคิด ขอให้ไฟเผาผลาญชีวิตให้ม้วยมรณา ตกนรกขุมสุดท้ายแต่หากทุกอย่างไม่เป็นดังที่กล่าว ขอให้ไฟมิอาจทำอันตรายร่างกาย


เดชะความสัตย์ที่ซื่อตรง
จะร้อนเบื้องบาทบงสุ์ก็หาไม่
มีประทุมทิพมาศอำไพ
เกิดขึ้นในกลางเพลิงกาล
ขยายแย้มผกาเกสร
ขจายจรรื่นรสหอมหวาน
รับรองบาทบงสุ์ทรงธาร
ทุกย่างบทมาลย์เทวี



(ห้องที่ 112-113) ฝ่ายพิเภกก็จัดพิธีศพของทศกัณฐ์ให้อย่างสมพระเกียรติ


(ห้อง ที่ 114) พระรามยกกรุงลงกาให้พิเภกปกครอง พร้อมเปลี่ยนชื่อพิเภกใหม่เป็นท้าวทศคิริวงษ์ แล้วมอบนางมณโฑ และนางตรีชาดาเป็นอัครมเหสี ท้าวคิริวงษ์ขอให้พระรามทำลายถนนที่จองไว้เมื่อตอนข้ามมากรุงลงกาเพราะขวาง ทางน้ำ พระรามจึงแผลงศรพลายวาตทำลายถนนเสียสิ้น แล้วตั้งทัพเตรียมตัวกลับอยุธยา

**ตอนต่อไป พระรามกลับเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น