Asd

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ตอนที่ 19 ทศกัณฐ์ขับไล่พิเภก

(ห้องที่ 40) อยู่มาวันหนึ่งทศกัณฐ์ฝันร้าย ฝันว่ามีพญาแร้งขนสีขาวบินมาจากทิศตะวันออกร่อนมาที่หน้าพระลานวังทศกัณฐ์ ตีกันกับแร้งดำที่มาจากทางทิศตะวันตก แร้งดำปราชัยกลายร่างเป็นยักษ์ มีกะลาน้ำมันยางมีไส้กะลาวางเหนือมือทศกัณฐ์ มีหญิงนางหนึ่งวิ่งมาจุดไส้กะลา ไฟไหม้ติดมือ พิษร้อนแรงไปทั่วร่าง เมื่อตื่นขึ้นจึงเรียกพิเภกมาทำนาย

พิเภกทำนายฝันว่า กะลาคือกรุงลงกา ไส้กะลาคือทศกัณฐ์ น้ำมันยางคือพระญาติวงศ์ทั้งหลาย เพลิงคือนางสีดา หญิงที่วิ่งมาจุดไฟคือนางสำมนักขา แร้งเผือกคือพระราม แร้งดำคือทศกัณฐ์ การศึกครั้งนี้ร้ายแรงนัก

ทศกัณฐ์โกรธมากให้ พิเภกสะเดาะเคราห์ แต่พิเภกบอกว่าสะเดาะไม่ได้ทำให้ร้ายกลายเป็นดีได้ทางเดียว คือคืนนางสีดาให้แก่พระราม ทศกัณฐ์โกรธพิเภกมากถึงขนาดตัดพี่ตัดน้อง ริบเมียคือนางตรีชาดาไปเป็นทาสรับใช้นางสีดา ริบสมบัติทั้งหมดแล้วขับไล่ออกไปจากเมือง



พิเภก แสนรันทดเศร้าใจที่ต้องจากเมืองไปในครั้งนี้ เดินทางดั้นด้นพ้นเมืองมาจึงพิเคราะห์ดูดวงตนเอง เห็นว่าชะตาแค่จากถิ่นฐานไม่ถึงกับชะตาขาด มีผู้อุปถัมภ์สำคัญอยู่ทางทิศตะวันออก จึงเหาะข้ามสมุทรมุ่งไปยังเขาคันธมาทน์

(ห้องที่ 41) ในที่สุดพิเภกได้มาพบกับนิลเอกซึ่งเป็นหัวหน้าลิงอยู่ตามชายป่า พิเภกขอให้นิลเอกพาตนไปเข้าเฝ้าพระราม นิลเอกจึงพาพิเภกไปพบกับสุครีพ สุครีพซักไซ้ไล้เลียงจนหมดข้อสงสัยจึงพาพิเภกไปเข้าเฝ้าพระรามและรายงานให้ ทรงทราบว่าพิเภกเป็นน้องของทศกัณฐ์ถูกขับออกจากเมืองมาจึงใคร่จะมาขอสมัคร อยู่กับพระราม พิเภกจึงกล่าวขอตั้งสัตย์สาบานตัวเข้าสวามิภักดิ์ต่อพระราม จากนั้นพิเภก กับสุครีพตั้งสัตยาสาบานตนท่ามกลางเหล่าทหารทั้งหลายจะเป็นสหายรักร่วมชีวิต ตลอดไป

รุ่งเช้า พระรามถามพิเภกว่า ทหารยักษ์ในลงกามีมากน้อยเพียงใด ถ้าจะยกทหารลิงไปสู้รบกับยักษ์จะได้ชัยชนะหรือไม่ พิเภกทูลว่าทหารยักษ์ในเมืองลงกามีมากกว่าทหารลิงของพระราม ทั้งยังเชี่ยวชาญในการยุทธ สามารถแปลงกายหายตัว และดำดินเหาะเหินเดินสมุทรก็ทำได้ขอให้ตนได้เห็นฝีมือทหารลิงของพระรามก่อน จึงจะสามารถประเมินกำลังความสามารถได้ พระรามจึงสั่งให้สุครีพนำพวกลิงออกไปริมเนินพระสมุทรแล้วสำแดงฤทธิ์ให้พิเภก ดูด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ลิงช้อนพระอาทิตย์ ลิงหักภูเขาทุ่ม ลิงขี่ปลาในแม่น้ำ เป็นต้น ซึ่งมีอยู่คราวหนึ่งที่ลิงได้หักภูเขาทุ่มนั้น

(ห้อง ที่ 42) ปรากฏว่าหินได้ไปตกที่กลางปราสาทวังของทศกัณฐ์ อีกทั้งทศกัณฐ์ได้ยินเสียงกึกก้องท้องฟ้ามืดมิด มีฟ้าแลบ จึงส่ง สุกรสารเสนาบดีใหญ่ไปดูเหตุการณ์ สุกรสารจึงแปลงร่างเป็นเหยี่ยวบินไปดูพวกลิง แล้วบังเอิญถูกพวกลิงง้างหินจาก ภูเขามาถูกปีกหัก เจ็บปวดมาก จึงนิมิตกายเป็นลิงป่าปลอมปนไปกับพวกทหารลิง พิเภกเมื่อเห็นพละกำลังของทหารลิงก็ทูลพระรามว่าพวกยักษ์คงสู้ไม่ได้แต่บัด นี้ได้มียักษ์ปลอมปนมากับทหารลิง ซึ่งพอจะสังเกตได้เพราะยักษ์ไม่มีเงาตามตัว และตาไม่กระพริบเหมือนสัตว์ทั้งหลาย

(ห้องที่ 43) พระรามจึงสั่งให้หนุมานไปจับยักษ์ที่ปลอมเป็นลิงมาประจานให้สาใจ หนุมานจึงนิมิตกายใหญ่เท่าเขาจักรวาลและเอามือหนึ่งครอบพวกทหารไว้ แล้วให้พวกทหารออกจากมือทีละตัว จนเหลือสุกรสารเป็นตัวสุดท้าย หนุมานจึงจับตัวสุกรสารมาดูเห็นไม่มีเงา และตาก็ไม่กระพริบดังที่พิเภกว่า จึงจิกศีรษะสุกรสารไว้ แล้วลิงปลอมก็กลายเป็นยักษ์ หลังจากนั้นหนุมานก็นำตัวสุกรสารมาเฝ้าพระราม

เมื่อพระรามซักไซ้ไล้ เลียงสุกรสารเรียบร้อยแล้วจึงให้สุครีพปรึกษาโทษว่าจะทำอย่างไร สุครีพแจ้งว่าถึงแม้ฆ่าไปก็เสียเกียรติยศพระราม ขอให้งดเว้นแต่ให้เฆี่ยนและสักหน้าปล่อยให้กลับไปรายงานนายของมัน พระรามเห็นดีด้วยจึงให้ทำตามนั้น

สุกรสารเมื่อกลับมายังลงกาก็รายงาน ให้ทศกัณฐ์ทราบเรื่องว่าพระรามได้มาตั้งพลทัพที่เขา คันธมาทน์และพิเภกไปสมัครเป็นพรรคพวกของพระรามด้วย และคิดว่าที่พวกลิงสามารถจับตนได้นั้นก็เพราะพิเภกบอกอุบายให้ถ้าทิ้งไว้น่า จะมีภัยเพราะพิเภกคงจะสาวไส้ให้กากิน ทศกัณฐ์จึงคิดหาอุบายทำให้พระรามขับพิเภกจากพลับพลาแล้วตนเองสามารถไปฆ่า พิเภกได้โดยง่าย

**ตอนต่อไป ทศกัณฐ์คิดอุบายกำจัดศึก**

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น