(ห้องที่ 97) ทศกัณฐ์แค้นเหล่าเทวดาที่ตัดสินเข้าข้างพระราม จึงทำพิธีกะลาไฟ เอาดินเจ็ดท่ามาผสมกันปั้นเป็นรูปเทวดา แล้วโยนเข้ากองไฟ ทำให้เหล่าเทวดาร้อนดั่งไฟเผา พร้อมกันนั้นก็ทำพิธีลับหอกกบิลพัท พระอินทร์จึงเข้าเฝ้าพระอิศวรร้องทุกข์ พระอิศวรส่งเทพบุตรพาลีลงมาทำลายพิธีทั้งหมด (ห้องที่ 98) ทศกัณฐ์เข้าใจว่าพิเภกเป็นคนบอกให้มาทำลายพิธี จึงพุ่งหอกกบิลพัทใส่พิเภก พระลักษณ์ปัดป้อง หอกจึงต้องพระลักษณ์แทนและสลบ
(ห้องที่ 99) พิเภกให้ไปเอายาที่เขาสัญชีพสัญญี เอามูลโคของพระอิศวร เอาหินบดจากพญากาลนาค เอาลูกหินใต้ศีรษะที่ทศกัณฐ์ใช้หนุนนอนต่างหมอน ตอนที่หนุมานไปเอาลูกหินนั้นได้ผูกผมนางมณโฑเข้ากับเศียรของทศกัณฐ์ด้วยคาถา ไม่มีผู้ใดสามารถแก้ไขได้ และได้เขียนวิธีแก้คาถานี้ไว้ที่หน้าผากทศกัณฐ์ว่า “ต้องก้มศีรษะให้นางมณโฑตบสามทีจึงจะแก้คำสาปได้” แล้วหนุมานก็นำลูกหินสำหรับบดเหาะกลับทัพพระราม ทศกัณฐ์ก้มหัวให้นางมณโฑตบสามทีจึงพ้นคาถาของหนุมานสร้างความอับอายและเดือด ดาลยิ่งนัก ส่วนพระลักษณ์ก็ฟื้นหลังจากได้ยา
(ห้อง ที่ 100) นางมณโฑเสนอหุงน้ำทิพย์เรียกพิธีสัญชีพ คือให้เหล่ายักษ์ที่ถูกฝ่ายพระรามฆ่าตายฟื้นคืนชีพมาช่วยรบใหม่อีกครั้ง โดยถ้าพิธีสำเร็จอสูรร้ายที่ฟื้นขึ้นมาจะมีฤทธิ์เดชมากมายเหาะเหินเดินอากาศ ได้ สั่งให้ทำอะไรก็ได้แต่จะพูดไม่ได้ ทั้งนี้ระหว่างประกอบพิธีซึ่งมีกำหนดเจ็ดวันจะต้องไม่ร่วมประเวณีโดยเด็ดขาด (ห้องที่ 101) นางมณโฑทยอยส่งน้ำทิพย์ให้แก่ทศกัณฐ์ที่อยู่ในสนามรบ เมื่อได้น้ำทิพย์ทศกัณฐ์ก็หยดลงพื้นดินเหล่าอสูรร้ายก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาสู้ รบกับพระราม พระรามยิงศรตาข่ายล้อมปีศาจร้ายไว้แล้วให้หนุมาน นิลนนท์ และชมพูพานไปทำลายพิธีหุงน้ำทิพย์
(ห้องที่ 102) หนุมานแปลงเป็นทศกัณฐ์พบนางมณโฑจึงบอกให้นางเลิกพิธีเสียเพราะชนะศึกแล้ว และขอร่วมหลับนอนกับนางมณโฑ พิธีหุงน้ำทิพย์จึงถูกทำลายลง หนุมานเมื่อเสร็จภาระกิจก็หลบหนีออกมาจากกรุงลงกา ฝ่ายทศกัณฐ์เมื่อน้ำทิพย์หมดและนางมณโฑไม่ส่งมาจึงถอยทัพกลับวัง เมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดก็ยิ่งโกรธแค้นหนุมานขึ้นอีกเป็นร้อยเท่าทวีคูณ (ห้องที่ 103) รุ่งขึ้นทศกัณฐ์ออกรบด้วยเพลิงแค้นสุมอยู่ในอก ทว่าถูกพระรามแผลงศรพรหมมาสตร์ตัดคอขาดกระเด็นแต่ก็นำกลับมาต่อได้อย่างน่า อัศจรรย์ พิเภกจึงทูลว่า ทศกัณฐ์ได้ถอดดวงใจฝากไว้กับฤาษีโคบุตร ฆ่ายังไงก็ไม่ตายได้”
(ห้อง ที่ 104) พระรามสั่งให้หนุมานกับองคตไปนำกล่องดวงใจมาให้ได้ หนุมานกับองคตจึงไปหาฤาษีโคบุตรกุเรื่องว่าพวกตนขัดแย้งกับพวกพระรามจึงหลบ หนีออกมาขอให้พระฤาษีพาไปฝากกับข้ารับใช้ของทศกัณฐ์ให้ด้วย พระฤาษีเมื่อโดนรบเร้าอ้อนวอนนานเข้าก็ใจอ่อนอาสาว่าจะพาทั้งคู่ไป หนุมานออกอุบายให้ฤาษีโคบุตรนำกล่องดวงใจของทศกัณฐ์ไปด้วย เพราะฝ่ายพระรามรู้แล้วว่าทศกัณฐ์ได้ถอดดวงใจฝากไว้กับฤาษี ถ้าทิ้งไว้ที่อาศรมเกรงว่าพระรามจะส่งคนมาขโมยไปพระฤาษีหลงเชื่อจึงนำกล่อง ดวงใจพกติดตัวไปด้วย หนุมานหลอกถามอีกว่าทำไมทศกัณฐ์จึงไม่เก็บดวงใจไว้ใกล้ๆตัวเองต้องมาฝากพระ ฤาษี พระฤาษีโคบุตรตอบว่า ถ้าหากเก็บดวงใจไว้ใกล้ร่างมันจะวิ่งเข้าสู่ร่างเดิมจึงต้องเก็บไว้ในที่ ห่างไกล หนุมานจึงว่า ถ้าเช่นนั้นขอให้พระฤาษีพาตนเข้าไปเฝ้าทศกัณฐ์แต่เพียงผู้เดียวก่อนแล้ว ฝากกล่องดวงใจไว้กับองคตที่รออยู่ข้างนอก เพราะหากนำเข้าไปด้วย เกรงว่าดวงใจจะวิ่งเข้าหาร่างทศกัณฐ์ พระฤาษีโคบุตรเห็นด้วยจึงฝากกล่องดวงใจไว้กับองคตแล้วพาหนุมานเข้าวัง
ระหว่าง ที่เดินเข้าวังหนุมานออกอุบายอีกว่า “ขอให้ข้าไปเตือนองคตเสียหน่อยเถอะท่าน เพราะองคตไม่ถูกกันกับยักษ์ อาจมีการสู้รบกันได้ ข้าจะไปบอกยักษ์ด้วยว่าองคตมาดีมิได้มาร้าย ฉะนั้นอย่ามีเรื่องผิดใจกัน พระฤาษีโคบุตรชื่นชมหนุมานที่รอบคอบ คล้อยหลังพระฤาษี หนุมานเนรมิตกล่องดวงใจขึ้นอีกอัน ให้องคตถือไว้รอจนกว่าพระฤาษีจะออกมาจึงค่อยมอบกลับคืน ส่วนกล่องดวงใจของจริงนำไปฝังซ่อนที่เนินเขาอัญชันริมฝั่งมหาสมุทร เมื่อใดที่เห็นหนุมานลอยอยู่บนฟ้าแล้วหาวเป็นดาวเป็นเดือน ให้รีบนำกล่องดวงใจอันจริงมาให้โดยทันที
ทศกัณฐ์เมื่อเห็นหนุมานมา เข้าเฝ้าก็ฉุนจัดรี่เข้าจะทำร้าย แต่พระฤาษีห้ามไว้ทันพร้อมกับช่วยเกลี้ยกล่อมจนทศกัณฐ์เริ่มใจอ่อน อีกทั้งตนเองก็นิยมชมชอบนักรบมีฝีมืออยู่แล้วจึงตกลงรับ หนุมานเป็นทหารเอกโดยยกให้ถึงเป็นบุตรบุญธรรม แม้นนางมณโฑจะคัดค้านว่าเอาศัตรูมาเลี้ยงรังแต่จะเป็นภัยแก่ตัวเองเปรียบ เสมือนเลี้ยงอสรพิษเอาไว้จะแว้งกัดเมื่อใดก็ไม่รู้ แต่ทศกัณฐ์ไม่สนใจฟัง (ห้องที่ 105) หนุมานขันอาสาทศกัณฐ์ออกศึกสู้รบกับพระลักษณ์ ให้กองทัพยักษ์รอท่าอยู่ข้างหลัง แกล้งรบถ่วงเวลาจนมืดค่ำ แล้วจึงต่อปากต่อคำกับพระลักษณ์เพื่อให้เหล่าทหารยักษ์ได้ยิน
**ตอนต่อไป ทศกัณฐ์ถึงแก่ความตาย-นางสีดาลุยไฟ
Asd
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ยังไงอย่างนั้นแหละ
ตอบลบ