ท้าวทศรถกษัตริย์กรุงอยุธยา มีพระมเหสี 3องค์คือ นางเกาสุริยา นางไกยเกษี และนางสมุทรเทวี วัน หนึ่งท้าวทศรถยกทัพไปรบกับพญายักษ์ปทูตทันต์ โดยมีนางไกยเกษีตามเสด็จไปด้วย ขณะเข้าโรมรันพันตูพญายักษ์ปทูตทันต์แผลงศรไปถูกเพลารถของท้าวทศรถจนหัก สะบั้น นางไกยเกษีเห็นดังนั้นจึงกระโดดลงจากรถแล้วใช้แขนของนางสอดแทนเพลารถ จนกระทั่งท้าวทศรถทำการรบชนะและฆ่ายักษ์ ปทูตทันต์ได้สำเร็จ ท้าวทศรถซาบซึ้งในความจงรักภักดีของนางไกยเกษี จึงให้สัจจะว่า สิ่งใดที่นางประสงค์ พระองค์จะจัดหาให้โดยทันที
ท้าวทศรถครองราชย์มา นานหลายปีก็ยังไม่มีบุตรจึงทำพิธี“กวนข้าวทิพย์” เพื่อขอบุตร ขณะกำลังกวน กลิ่นข้าวทิพย์หอมขจรไปไกลถึงกรุงลงกา นางมณโฑผู้เป็นมเหสีของทศกัณฐ์ได้กลิ่นหอมก็อยากลิ้มลอง แม้นตัวตายก็จะของลิ้มรสให้ได้
ทศกัณฐ์จึงส่งนางกากนาสูรแปลงร่างเป็นอีกาบินไปโฉบขโมยมาได้ครึ่งก้อน เมื่อนางมณโฑกินข้าวทิพย์เข้าไป นางก็ตั้งครรภ์ และประสูติพระธิดาออกมา
แต่ ขณะประสูติพระธิดาร้องออกมาว่า “ผลาญราพณ์” ขึ้น3ครั้ง พิเภกทำนายว่าจะเป็นกาลีบ้านกาลีเมือง ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นำพระธิดาใส่ผอบแล้วลอยน้ำไป ซึ่งปรากฏว่าด้วยบุญญาธิการของพระธิดา ซึ่งเดิมเคยเป็นพระลักษมีของพระนารายณ์ จึงเกิดมีดอกบัวใหญ่มารองรับผอบทอง ฝ่ายนางมณีเมขลาและหมู่เทพบุตรซึ่งมีหน้าที่รักษาสมุทรไทเห็นยักษ์เอาพระ ลักษมีมาทิ้งทะเลจึงรีบมาช่วย แล้วลมก็พัดพาผอบทองให้มาหยุดที่ท่าน้ำของพระชนกฤาษี ซึ่งเป็นกษัตริย์เมืองมิถิลา ไม่มีบุตรแล้วเบื่อหน่ายในการครองเมืองจึงออกบวชเป็นฤาษี
ฤาษีมาเจอ ผอบทองวางอยู่ในดอกบัวลอยน้ำมาขณะที่สรงน้ำอยู่จึงเก็บขึ้น เมื่อเปิดฝาดูพบว่าเป็นเด็กหญิงนอนอยู่ในผอบ ก็มีความโสมนัสยินดีตัดสินใจเลี้ยงเด็กนั้นเป็นธิดาบุญธรรม โดยอธิษฐานว่าถ้าเด็กน้อยนี้มีบุญวาสนาขอให้นิ้วชี้ของพระองค์มีน้ำนมให้ เด็กดูดเหมือนถันของหญิงแม่ลูกอ่อน
ส่วน “ข้าวทิพย์กวน” ที่เหลืออยู่สามก้อนครึ่งนั้น ท้าวทศรถแบ่งให้มเหสีทั้งสาม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พระอิศวรขอร้องให้พระนารายณ์อวตารมาเกิดในมนุษย์โลก เพื่อทำลายล้างพวกยักษ์ร้าย พระนารายณ์จึงอวตารมาสู่ครรภ์ของนางเกาสุริยา แล้วเกิดเป็นพระรามกายสีเขียวดังนิลมณี ส่วนอาวุธของพระนารายณ์ก็จุติมาเกิดเป็นโอรสของท้าวทศรถด้วยคือ จักรแก้วเข้าสู่ครรภ์นางไกยเกษีแล้วเกิดเป็นพระพรตกายสีดั่งทับทิม บัลลังก์นาคกับสังข์มาสู่ครรภ์นางสมุทรเทวี แล้วเกิดเป็นพระลักษณ์ กายสีเหลืองคล้ายทองทา คทาวุธมาสู่ครรภ์นางสมุทรเทวีเป็นบุตรแฝดเกิดภายหลังพระลักษณ์เล็กน้อยชื่อพระสัตรุด กายสีม่วงอ่อน
(ห้อง ที่ 1) ทางฝ่ายพระชนกฤาษีออกบวชมาก็นานหวังจะได้ฌาณโลกีย์แต่ก็ยังไม่ได้ ครั้นจะกลับคืนเข้าวัง ก็เสียดายการตบะกิจ แต่จะทำความเพียรต่อไปในเพศบรรพชิต ก็ติดด้วยการเลี้ยงดูพระธิดา จึงติดสินใจว่าจะเอาพระธิดาไปฝังไว้ที่ในป่าโดยฝากเทพไทที่ในป่าไว้แล้วตน เองจะได้บำเพ็ญภาวนาตามลัทธิโยคีต่อไป 16 ปีต่อมาพระชนกฤาษีก็ยังไม่ได้ฌาณสมาบัติ จึงเกิดรู้สึกเบื่อหน่ายต่อการออกบวช จึงคิดจะกลับไปเป็นกษัตริย์ในเมืองมิถิลาโดยเอาพระธิดาไปด้วย พระฤาษีทรงอธิษฐานและลงมือไถรอบโคนต้นไทรด้วยพระองค์เอง ในไม่ช้าก็พบผอบอยู่ในดอกบัว และเมื่อเปิดผอบก็พบพระธิดารูปโฉมสวยงาม และมีพระชนมายุ 16 ปี จึงนำพระธิดากลับไปยังบรรณศาลา แล้วตั้งชื่อพระธิดาว่า นางสีดา ซึ่งแปลว่า รอยไถ หลังจากนั้นพระชนกก็ลาพรตพิธี แล้วทรงเครื่องกษัตริย์เสด็จกลับเข้าวังพร้อมด้วยพระราชธิดา
**โปรดติดตามตอนต่อไป พาลีเสียสัตย์ **
Asd
วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น