พระอิศวรตกใจตื่นจึง เข้าญาณเพ่งดูว่าเกิดอะไรขึ้น จึงนึกในใจว่า “แม้นเจ้ายักษ์วิรูฬหกบังอาจทำเขาไกรลาสทรุดเอียง แต่ก็ทำไปด้วยความโมโหเจ้าตุ๊กแกที่ร้องเย้ยหยันมากราบเราทุกขั้นบันไดด้วย ใจภักดี เฮ่อ! อโหสิให้มันก็แล้วกัน
พระอิศวรจึงให้ไปตามทศกัณฐ์มา ช่วย ทศกัณฐ์เนรมิตกายใหญ่เท่าภูเขา ใช้บ่ายันขุนเขาไว้ พร้อมทั้งยี่สิบมือที่โอบจับทุกเหลี่ยมเขาแล้วใช้เท้าถีบเขาไกรลาสสุดแรง ทำให้เขาตั้งตรงดังเดิม
ทศกัณฐ์ทวงของรางวัลจากพระอิศวรด้วยการขอพระอุมา ซึ่งเป็นภรรยาของพระอิศวร แต่ด้วยความที่ประกาศไว้แล้ว พระอิศวรจึงจำใจยกให้

แต่ ทศกัณฐ์ก็ไม่อาจจับตัวพระอุมาได้เนื่องจากอำนาจบารมีของพระอุมาที่แผดเผาทศ กัณฐ์ให้ร้อนดั่งไฟ แต่ทศกัณฐ์ก็ฝืนอดทนพาพระอุมาเหาะไปด้วยกัน ไม่นานทนร้อนไม่ไหวจึงเหาะลงพัก

ขณะนั้น พระนารายณ์เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่สบโอกาสแปลงกายเป็นยักษ์แก่ปลูกต้นไม้เอารากชี้ฟ้า ลำต้นฝังดิน
ทศกัณฐ์ผ่านมาเห็นจึง ทักว่า “เจ้ายักษ์บ้า เจ้าปลูกต้นไม้ยังไงของเจ้า”
ยักษ์ แก่ตวาดแหว “เอ็งนะสิบ้า ไม่รู้เหรอว่าเอ็งพาใครมา หญิงนางนี้จะเผาผลาญเอ็งให้กลายเป็นเถ้าธุลี ไฟของนางจะลุกโชนเผากรุงลงกาเสียวอดวายเป็นจุล”
ทศกัณฐ์ประหลาดใจแต่เห็นด้วยกับยักษ์แก่ จึงถามยักษ์แก่ว่า “แล้วข้าควรจะทูลขอสาวงามคนใดจากพระอิศวร หล่ะ”
ยักษ์แก่ตอบสั้นๆ “นางมณโฑ” ทศกัณฐ์จึงรีบเหาะพานาง
อุมาไปคืนแก่พระอิศวร แล้วทูลขอนางมณโฑ พระอิศวรก็ประทานให้ ทศกัณฐ์ดีใจรีบทูลลาอุ้มนางมณโฑสาวงามกลับกรุงลงกา
ระหว่าง ทางต้องผ่านเมืองขีดขินซึ่งพาลีครองเมืองอยู่เห็นก็โกรธที่ยักษ์มาอุ้มหญิง บินเหาะข้ามหัวจึงคว้าพระขันธ์เหาะขึ้นไปสู้รบ และด้วยพรที่พาลีได้รับจากพระอิศวร(กำลังคู่ต่อสู้ลดลงครึ่งหนึ่งมาเพิ่มที่ พาลีแทน) ทำให้พาลีรบชนะแล้วแย่งนางมณโฑมาได้ ฝ่ายทศกัณฐ์ซมซานกลับกรุงลงกา
**โปรดติดตามต่อต่อไป กำเนิดองคต-อินทรชิต**
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น